ขนุนผู้ต่ำต้อย
หมู่บ้านทองดี เป็นหมู่บ้านที่มีเศรษฐีทองคำเป็นผู้ปกครอง แม้เศรษฐีทองคำจะเป็นคนร่ำรวยแต่ก็ไม่เคยเอาเปรียบชาวบ้าน กลับใช้คุณธรรมและเงินทองของตนทำนุบำรุงหมู่บ้าน และดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีเสมอ ชาวบ้านจึงเคารพรักใคร่เศรษฐีทองคำมาก
เศรษฐีทองคำมีลูกสาวแสนสวยคนหนึ่งชื่อว่า ดอกแก้ว ดอกแก้วเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มฐานะดีทั้งในและนอกหมู่บ้านหลายคน แต่ตัวเธอนั้นยังไม่สมัครใจรักใคร่กับชายใด ซึ่งเศรษฐีทองคำก็เห็นด้วยที่ลูกสาวไม่รีบร้อนออกเรือน เพราะหมายมั่นว่าเมื่อถึงเวลาสมควรแล้ว จะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตน รวมถึงตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ให้ตกเป็นของของลูกเขยในอนาคตด้วย ดังนั้นเศรษฐีทองคำจึงอยากใช้เวลาเลือกเฟ้นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นทั้งหัวหน้าหมู่บ้านและเป็นผู้ที่จะมาดูแลทรัพย์สินของตนเองให้เกิดประโยชน์แก่หมู่บ้านได้ในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นในวันหนึ่ง เศรษฐีทองคำจึงให้คนไปประกาศทั่วหมู่บ้าน และเลยไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงว่า
“มีข่าวล้ามาบอกจ้า! มีข่าวล้ามาบอก! อีกสามวันเมื่อฟ้าสาง ท่าเศรษฐีทองคำจะทำการเลือกคู่ให้แก่คุณหมูดอกแก้วบุตรสาวคนสวยของท่าน ขอให้บุรุษทุกท่านทั้งคนมีคนยาก แต่ยังโสดสนิท ที่สนใจเข้ารับการเลือกคู่ครั้งนี้ ไปสมัครกันถ้วนหน้า หากบุรุษคนใดผ่านการคัดเลือกและได้แต่งงานกับคุณหนูดอกแก้ว เขาผู้นั้นจะได้รับทรัพย์สมบัติทั้งหมดจากท่านเศรษฐีและได้รับตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ต่อจากท่านด้วยจ้า”
เมื่อมีประกาศนี้ออกมา พวกผู้ชายที่รู้ข่าวต่างพากันตื่นเต้นดีใจ รวมทั้งขนุน หนุ่มคนยากที่อาศัยอยู่ตรงกระต๊อปปลายนาด้วย
ขนุนนั้นเคยพบหน้าแม่ดอกแก้วคนสวยอยู่ครั้งหนึ่ง และเกิดหลงรักปักใจมานับแต่บัดนั้น แต่ขนุนเป็นคนเจียมตัว เขาคิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับลูกสาวของท่านเศรษฐี จึงไม่เคยพยายามสานต่อความสัมพันธ์กับนาง อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านเศรษฐีมีประกาศออกมาเช่นนี้ ขนุนคิดว่าเขาน่าจะไปลองสมัครดูสักหน่อย หากมีบุญวาสนาคู่กันก็คงได้ครองคู่ แต่หากต้องผิดหวังเขาก็ไม่เสียใจ และขอยินดีกับหญิงที่เขาแอบรักด้วย
ถึงวันเลือกคู่ ขนุนรีบไปที่บ้านของเศรษฐีทองคำแต่เช้า เมื่อไปถึงปรากฏว่าที่นั่นเต็มไปด้วยบุรุษมากหน้าหลายตา และทุกคนดูเหมือนว่าจะเป็นบุรุษจากครอบครัวผู้มีฐานะดี มีชาติตระกูล ในขณะที่บางคนก็ดูทรงภูมิท่าทางมีการศึกษาสูง
ขนุนเห็นแล้วก็รู้สึกใจแป้ว ดูเหมือนในที่นั้นจะมีแต่เขาเพียงผู้เดียวที่ดูต่ำต้อย ไร้สกุลรุนชาติ และไม่มีการศึกษาที่สูงส่งอะไร
‘ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลยขนุนเอ๋ย ดูสิ มีแต่บุรุษระดับสูงที่คู่ควรกับแม่ดอกแก้วอย่างแท้จริง แกน่าจะรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้ว ใครเขาจะมาเลือกคนอย่างแกให้ลูกสาวของเขา โธ่เอ๋ย…คนไม่เจียมตัว’ ขนุนพร่ำว่าตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสมัครเข้ามาแล้วก็ต้องอยู่ให้เสร็จสิ้นการคัดเลือก
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เศรษฐีทองคำก็ออกมาป่าวประกาศว่า
“ทุกๆ ท่านโปรดฟังทางนี้…เรา…เศรษฐีทองคำ แห่งหมู่บ้านทองดี ได้แจ้งความประสงค์ถึงการรับสมัครผู้ที่จะเข้ามาเป็นบุตรเขยของเราไปแล้วว่า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากจะได้บุตรสาวแสนสวยของเราไปครอง ยังได้ทรัพย์สมบัติและต้องดำรงตำแหน่งผู้ปกครองของหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะเมื่อไม่มีเราแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไปจะต้องเข้าถึงชาวบ้านและดูแลพวกเขาได้ดีไม่แพ้เรา ดังนั้นทุกท่านจงบอกถึงความสามารถของท่านให้เราได้รู้ว่า หากท่านมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว ท่านมีดีอันใดในตัวเอง ที่จะนำมาใช้ดูแลหมู่บ้านนี้ต่อจากข้า ขอจงบอกมาให้ข้ารู้
ชายอ้วนลูกเศรษฐีหมู่บ้านใกล้เคียง ก้าวออกมาก่อนใครเพื่อน พร้อมกับกล่าวว่า
“ข้ามีเงินทองมากมาย ข้าจะใช้เงินทองของข้าแจกจ่ายชาวบ้านให้อยู่ดีกินดี”
อัศวินผู้กล้า กล่าวต่อเป็นลำดับต่อมาว่า
“ข้าจะจัดสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยคมดาบในมือของข้า แม้นมีผู้ร้ายหน้าไหนเข้ามาก่อกวนความสงบ ข้าก็จะใช้ดาบของข้าบั่นคอมันทันที”
นายวิศวกรมือหนึ่ง กล่าวว่า
“ข้าจะจัดสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุด และพรั่งพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายต่างๆ นานา”
นายแพทย์หนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘หมอเทวดา’ กล่าวว่า
“ข้าจะใช้ความรู้ทางแพทย์ของข้า รักษาผู้คนที่เจ็บป่วยในเมือง ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไร้โรคภัย”
ผู้สมัครต่างกล่าวอ้าถึงคุณสมบัติพิเศษในตัวเองให้เศรษฐีพิจารณาทีละคนๆ จนกระทั่งมาถึงขนุนในลำดับสุดท้าย
“เรียนท่านเศรษฐี” ขนุนกล่าวอย่างนอบน้อม “ข้าน้อยขนุน เป็นเพียงคนต่ำต้อย ไร้เงิน ไร้อำนาจ และขาดการศึกษา ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดโดดเด่นพอที่จะนำมากล่าวอ้างแก่ท่านได้ แต่ข้าน้อยกล้ายืนยันว่าตัวข้าน้อยนั้นยึดมั่นความดีเป็นที่ตั้ง และข้าน้อยจะใช้ความดีอันเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวข้าน้อยอยู่ตลอดเวลามาดูแลความทุกข์ร้อนของชาวบ้านด้วยความเมตตาขอรับ”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ขนุนพูด หลายคนในที่นั้นต่างพากันหัวเราะเยาะ บางคนแกล้งพูดล้อเลียนให้ขนุนฟังว่า “ขนุนผู้ต่ำต้อย…ไม่รู้จักคำว่าเจียมตัวบ้างเลยหรือ”
ในตอนนั้นเอง มีคนรับใช้คนหนึ่งวิ่งลนลานมาบอกแก่เศรษฐีทองคำว่า
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับนายท่าน ตอนนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านของเรากำลังเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะท่อระบายน้ำเสียอุดตัน ทำให้ระบบระบายน้ำขัดข้อง ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วหมู่บ้านแล้วขอรับ”
เมื่อได้ฟังเหตุร้ายฉุกเฉินนั้น เศรษฐีทองคำจึงขออาสาสมัครจากบุรุษในกลุ่มที่มาสมัครเป็นลูกเขยให้ลงไปในท่อระบายน้ำ เพื่อเอาสิ่งอุดตันออก แต่ในท่อระบายน้ำนั้นแสนจะเหม็นเน่าเหลือกำลัง จึงไม่มีใครกล้าเสนอตนเองลงไปทำงานชิ้นนี้ ต่างคนต่างบ่ายเบี่ยงและอ้างว่างานต่ำต้อยเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตนถนัด
ขนุนผู้ต่ำต้อยรอดูท่าทีของบุรุษผู้สูงส่งเหล่านี้อยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอาสา ตนจึงยกมือขึ้นแล้วบอกแก่เศรษฐีทองคำว่าจะเป็นผู้ลงไปในท่อระบายน้ำเอง
“แต่ในนั้นเหม็นมากนะ เจ้าหนุ่ม” เศรษฐีทองคำกล่าวหยั่งเชิงขนุน
“ไม่เป็นไรหรอกขอรับ เพราะข้าน้อยนั้นเป็นลูกชาวนาคนยาก เมื่อเกิดมาก็กินอยู่กับกองดินและกองขี้วัวอยู่แล้ว งานแค่นี้ไม่ได้ทำให้ข้าน้อยรู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด ข้าน้อยเป็นคนต่ำต้อย จึงไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะทำให้ข้าน้อยคิดว่า ตนเองนั้นสูงส่งเสียจนหยิบจับสิ่งนั้นไม่ได้”
ว่าแล้ว ขนุนก็ลงไปในท่อระบายน้ำแล้งเริ่มค้นหาสิ่งอุดตันที่ทำให้น้ำในท่อไม่ไหล การกระทำของขนุนครั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของเศรษฐีทองคำโดยตลอดและแม้แต่ดอกแก้ว ลูกสาวคนสวยของเศรษฐีเอง เมื่อรู่เรื่องจากสาวใช้ก็รู้สึกชื่นชมในตัวขนุนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ลอบมองขนุนอยู่ตรงหน้าต่างตลอดเวลา
ขนุนใช้เวลาไม่นานก็สามารถนำสิ่งอุดตันออกจากท่อระบายน้ำได้ และทันทีที่เขาขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ดอกแก้วก็นำพวงมาลัยมาคล้องคอให้อย่างเขินอาย
“อะ…อะไรกันนี่ แม่ดอกแก้ว” ขนุนตกใจจนพูดติดๆ ขัดๆ “นางคงคล้องมาลัยผิดคนแล้วล่ะ เพราะข้าไม่ใช่คนที่ท่านเศรษฐีเลือกหรอก”
“ถ้าท่านคือขนุนคนต่ำต้อย ก็เห็นทีว่าคงถูกคนแล้ว เพราะท่านพ่อและตัวข้าเองก็เห็นว่าท่านสมควรถูกเลือกมากกว่าใครๆ” ดอกแก้วบอกขนุน
“ใช่แล้ว” เศรษฐีทองคำพูดขึ้นบ้าง “แม้เจ้าจะเป็นขนุนคนต่ำต้อย แต่การกระทำของเจ้าได้พิสูจน์ให้ข้าเห็นแล้วว่า แท้จริงแล้วเจ้านั้นสูงส่งยิ่งกว่าคนร่ำรวย นักรบ หรือแม้แต่ผู้มีการศึกษาแต่ไม่สามารถช่วยหมู่บ้านนี้ได้ ยามมีภัยเดือดร้อน แท้จริงแล้ว ข้ารู้สึกสรรเสริญในความต่ำต้อยของเจ้าด้วยซ้ำไป เพราะความต่ำต้อยนี้เองทำให้เจ้าไม่เกี่ยงงานดังคนที่คิดว่าตนเองสูงส่ง ทำให้ชาวบ้านรอดพ้นจากความลำบาก ดังนั้น เจ้าจึงเหมาะที่จะเป็นลูกเขยข้า และเป็นผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้ สืบต่อไป”
สิ้นเสียงประกาศของเศรษฐีทองคำ ชาวบ้านทุกคนต่างพากันโห่ร้องแสดงความยินดีต้อนรับว่าที่หัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ เพราะซึ้งน้ำใจขนุนผู้ต่ำต้อย ผู้เห็นประโยชน์ส่วนรวม ไม่รังเกียจงานต้อยต่ำ จนทำให้ชาวบ้านรอดพ้นความเดือดร้อนในครั้งนี้ได้
เธอทั้งหลาย…
แม้เธอจะเป็นคนต่ำต้อยในสายตาของใครๆ แต่จงอย่าทำตัวเองให้ต่ำต้อยตามความคิดของเขา เพราะแม้เธอจะเป็นคนต่ำต้อย แต่เธอมิใช่คนไร้คุณค่า ซึ่งคุณค่าในตัวเธอ จะปรากฏชัดเมื่อเธอกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน จากนั้นคนอื่นๆ ก็จะประจักษ์ชัดเองว่า แท้จริงแล้วเธอคือคนที่น่าสรรเสริญ มิใช่คนต่ำต้อยอย่างที่เขาเข้าใจในตอนแรก
หรือแม้เธอทั้งหลายที่ถูกยกย่องว่าเป็นผู้สูงส่ง ก็จงอย่ารังเกียจงานที่ต่ำต้อย ถ้างานนั้นจะสร้างประโยชน์ให้แก่คนหมู่มาก แล้วเธอจะเป็นคนที่สูงส่งได้อย่างแท้จริง
………….จบเรื่องขนุนผู้ต่ำต้อย…………………
“การกระทำจิตให้สงบนั้น อย่าเพิ่งเข้าใจว่ามาทำวันเดียวหรือสองวันมันจะสงบได้… จะต้องพยายามทำเรื่อยๆ ไป
ให้เห็นความสงบเกิดขึ้นมา….ต้องพยายามทำให้มาก
ทำบ่อยๆ ยืน เดิน นั่ง นอน ต้องมีสติอยู่เสมอ…”
หลวงพ่อชา สุภทฺโท (พระโพธิญาณเถร)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
สุขไม่เที่ยง ยึดถือแล้วเป็นทุกข์
“ เราจะพยายามมีสติคิดดี เพื่อที่จะได้พูดดี และทำดี จนเป็นนิสัย ”